ระยะเวลา 16 ปีกับอีก 8 เดือนที่ผมอยู่ในเรือนจำ เป็นประสบการณ์ที่ผมต้องแลกกับหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต ความผิดพลาดที่ผ่านมาได้สร้างบทเรียนที่หาเรียนจากที่ไหนไม่ได้เลย นอกจาก “มหาวิทยาลัยหลังกำแพง” แห่งนี้ มหาวิทยาลัยที่สอนให้ผมตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต และไม่คิดจะกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีกแล้ว
หนังสือเล่มนี้ ผมตั้งใจเขียนขึ้นจากเรื่องราวชีวิตของผมเองที่ผ่านมา ตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็ก จนกระทั่งเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และถูกจับกุม ส่งตัวเข้าสู่เรือนจำ ตั้งแต่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางไปจนถึงเรือนจำกลางบางขวาง แดน 6
เรือนจำคือสถานที่ที่ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากเข้าไปอยู่ในนั้น แต่เมื่อผมเข้าไปอยู่แล้วก็ได้พบเห็นเรื่องราวต่างๆ ที่หลายคนอาจไม่รู้ ผมจึงอยากเล่าประสบการณ์ทั้งหมดผ่านหนังสือเล่มนี้ ด้วยมุมมองของผู้ต้องขัง ผ่านห้วงความคิดของผมในแต่ละช่วงเวลา ในแต่ละเรื่องราวที่เข้ามาซึ่งมีทั้งสุขและทุกข์ สมหวังและผิดหวัง ให้ทุกคนเห็นภาพชีวิตในเรือนจำได้อย่างชัดเจน
ผมคิดเสมอว่าเรือนจำเป็นสถานที่ที่ผมอยู่ชั่วคราว สถานที่ที่ผมจะได้ใช้ชีวิตจริงๆ รอผมอยู่ข้างนอก ผมจึงใช้ชีวิตในเรือนจำอย่างมีความหวัง และทำทุกวันให้มีความหมาย แม้ผมจะเคยทำผิดพลาด แต่ผมจะไม่ยอมให้ความผิดพลาดนั้นมาเป็นตัวกำหนดชีวิตผมให้เป็นแบบนั้นตลอดไป
ผมอยากให้ทุกคนอ่านเรื่องราวชีวิตของผมในเรือนจำไว้เป็นบทเรียน คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเรียนรู้และสัมผัสสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง เพราะเมื่อคุณกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นคดียาเสพติดหรือคดีความอื่นๆ หากเข้าไปอยู่ในนั้นเมื่อไหร่ ก็เหมือนชีวิตคุณได้ถูกลบเลือนจากคนรู้จัก ลบเลือนไปจากสังคม
สำหรับผมแล้ว ช่วงเวลาที่อยู่ในนั้น คุณพ่อ คุณแม่ ญาติพี่น้อง
คนที่ผมไม่เคยใส่ใจพวกเขาเลยคือกำลังใจที่ทำให้ผมสู้ชีวิตต่อไปในวันที่ผมรู้สึกมืดมนที่สุด พวกเขาคือแรงผลักดันที่ทำให้ผมเรียนหนังสือจนจบมหาวิทยาลัย พัฒนาตัวเอง พัฒนาโครงการต่างๆ ในเรือนจำ จนสำเร็จและเป็นที่ยอมรับ
ผมเชื่อว่าหากเราทุกคนตั้งใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กล้าที่จะเปลี่ยนตัวเอง มุ่งมั่นตามความฝัน แม้เจออุปสรรค เรื่องราวในชีวิตที่ไม่สมหวัง ตกอับ รู้สึกเหมือนชีวิตถึงทางตัน ขอเพียงไม่ย่อท้อ ไม่ละทิ้งความฝันที่ตั้งใจ ซื่อสัตย์ในตัวเอง มองไปข้างหน้า มีอุดมการณ์ และเป้าหมายชีวิตที่จะต้องทำให้สำเร็จของตัวเอง คุณจะต้องทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน
แพท พาวเวอร์แพท