ผู้เขียน: พนมเทียน
เพชรพระอุมา เล่ม 3 ไพรมหากาฬ

นับว่าเป็นความโชคดีของผม ที่ครั้งหนึ่งเมื่อสมัยใช้ชีวิตวัยเด็กจนถึงวัยหนุ่มได้มีโอกาสคลุกคลี มีโอกาสซึมซับกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ป่า’ ป่าซึ่งเป็นผืนป่าจริงๆ ป่าซึ่งอุดมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ สิงสาราสัตว์นานาชนิด
‘ป่า’ ซึ่งสมัยปัจจุบันยากที่คนรุ่นหลังจะมีโอกาสได้สัมผัส ‘ป่า’ ซึ่งไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยทรัพยากรอันมีคุณค่าของชาติ แต่ยังเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ เป็นจิตวิญญาณของธรรมชาติ ที่มนุษย์ควรอย่างยิ่งที่จะต้องได้เรียนรู้ เพราะหลายครั้งการไม่เรียนรู้ธรรมชาติของป่า ไม่หยั่งลึกถึงจิตวิญญาณของธรรมชาติมักจะนำมาซึ่งความหายนะ เป็นความหายนะซึ่งมาจากภัยธรรมชาติ แต่จนแล้วจนเล่า ป่ารวมทั้งสมบัติอันมีค่าทั้งหลายที่ติดอยู่กับป่า ยังคงถูกทำลาย ยังคงถูกทำร้ายโดยน้ำมือของมนุษย์ โดยมิได้หยั่งรู้ถึงคุณค่าของมัน
พนมเทียน นับว่าเป็นผู้สร้างสรรค์วรรณกรรมเกี่ยวกับป่าที่หาตัวจับยาก วรรณกรรมของพนมเทียนสามารถถ่ายทอดความเป็นไปของป่าได้อย่างหยั่งลึกราวกับผู้อ่านได้เข้าไปซึมซับความเป็นป่าด้วยตนเองจริงๆ
ที่สำคัญ สิ่งที่ผู้อ่านได้รับจากงานของพนมเทียน นอกจากความตื่นเต้นสนุกสนานแล้วก็คือ ได้รับรู้ถึงจิตวิญญาณความเป็นป่า ซึ่งยากนักที่ผู้ที่มิได้มีชีวิตสัมผัสอยู่กับป่าจริงๆ จะได้รับ ซึ่งนับได้ว่าวรรณกรรมของพนมเทียน เป็นเส้นทางด่วนที่ผู้อ่านจะได้ใช้ย่นย่อเวลา ย่นย่อระยะทางในการติดต่อสัมผัสกับความเป็นป่าและธรรมชาติของมัน โดยที่ไม่ต้องไปสัมผัสกับความเป็นป่าจริงๆ ซึ่งนับวันจะหายากขึ้น ด้วยตนเอง
ผมมีโอกาสอ่านวรรณกรรมของพนมเทียน ในเวลาเดียวกับที่ผมได้มีโอกาสใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับป่า สิ่งที่พนมเทียนถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือของเขาแทบจะเรียกได้ว่ามิได้มีส่วนเกินเลยจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
หากแต่ว่าพนมเทียนสามารถเพิ่มสีสัน เพิ่มรสชาติของวรรณกรรมของเขาได้อย่างลงตัว
เป็นความลงตัวที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในป่า
นอกจากนี้ บุคลิกของความเป็น ‘ลูกผู้ชาย’ ที่พนมเทียนถ่ายทอดผ่านตัวเอกของเรื่อง ผมคิดว่าเป็นบุคลิกของคนที่จะถูกเรียกว่า ‘ลูกผู้ชาย’ ควรเอาเยี่ยง ซึ่งแทบจะกล่าวได้ว่าในสภาพสังคมปัจจุบัน ยากนักที่จะมีบุคคลที่มีลักษณะที่เรียกว่า ‘ลูกผู้ชาย’ ตามจินตนาการของพนมเทียน
ในโอกาสที่งานของพนมเทียนจะถูกนำมาปรับปรุงรูปเล่มและพิมพ์รวมเล่มใหม่ ผมมั่นใจว่า แม้จะเป็นงานที่ถูกเขียนมานาน แต่เนื้อหา ความสนุกสนานในวรรณกรรมของพนมเทียนจะมิได้ถูกบั่นทอนลงกับการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา
นอกจากนี้ รูปแบบการนำเสนอ ความสละสลวยของภาษาหากนักอ่านรุ่นใหม่ได้สัมผัสกับสิ่งที่พนมเทียนถ่ายทอดผ่านวรรณกรรมของเขา งานของพนมเทียนน่าจะกลับมาได้รับความนิยมเหมือนกับเมื่อครั้งในอดีต
ผมอยากเห็นนักอ่านรุ่นหลังได้สัมผัสงานของพนมเทียน อย่างน้อยกับวรรณกรรมคลาสสิกระดับ ‘เพชรพระอุมา’ สักครั้งในชีวิต ท่านจะได้อะไรที่มากกว่าความสนุกสนาน นั่นคือความรักและหวงแหนในทรัพยากรอันมีค่าของชาติ ซึ่งไม่แน่ว่าในวันข้างหน้าหาก ‘สิ่งเหล่านี้’ สูญสิ้นไปจากผืนแผ่นดินไทย จะด้วยเพราะความโลภ หรือความไม่รู้ของคนในชาติ เมื่อนั้น ภาพของ ‘ป่า’ ก็คงเป็นแค่เพียงเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมา และเมื่อนั้นพวกเราก็คงจะถูกสาปแช่งจากคนรุ่นลูกรุ่นหลานว่า เป็นผู้ทำลายธรรมชาติทำลายป่า
ซึ่งก็คือทำลายชีวิตของลูกหลานของพวกเรานั่นเอง

วันที่เผยแพร่ : Mar 13, 2023
สำนักพิมพ์ : บ้านวรรณกรรม
หมวดหมู่ : วรรณกรรม
จำนวนหน้า : 667
ความนิยม : ยังไม่มีการให้คะแนนหนังสือเล่มนี้
SHARE ON SOCIAL MEDIA :
จำนวนที่มีให้บริการ: ไม่จำกัด

MARC Information

020 a : ISBN
978-616-214-777-7
100 a : Author
245 a : Title
เพชรพระอุมา เล่ม 3 ไพรมหากาฬ
260 b : Name of publisher
บ้านวรรณกรรม
260 c : Date of publication
พิมพ์ครั้งที่ 7 พ.ศ. 2560
300 a : Total pages
667
520 a : Description
นับว่าเป็นความโชคดีของผม ที่ครั้งหนึ่งเมื่อสมัยใช้ชีวิตวัยเด็กจนถึงวัยหนุ่มได้มีโอกาสคลุกคลี มีโอกาสซึมซับกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ป่า’ ป่าซึ่งเป็นผืนป่าจริงๆ ป่าซึ่งอุดมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ สิงสาราสัตว์นานาชนิด ‘ป่า’ ซึ่งสมัยปัจจุบันยากที่คนรุ่นหลังจะมีโอกาสได้สัมผัส ‘ป่า’ ซึ่งไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยทรัพยากรอันมีคุณค่าของชาติ แต่ยังเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ เป็นจิตวิญญาณของธรรมชาติ ที่มนุษย์ควรอย่างยิ่งที่จะต้องได้เรียนรู้ เพราะหลายครั้งการไม่เรียนรู้ธรรมชาติของป่า ไม่หยั่งลึกถึงจิตวิญญาณของธรรมชาติมักจะนำมาซึ่งความหายนะ เป็นความหายนะซึ่งมาจากภัยธรรมชาติ แต่จนแล้วจนเล่า ป่ารวมทั้งสมบัติอันมีค่าทั้งหลายที่ติดอยู่กับป่า ยังคงถูกทำลาย ยังคงถูกทำร้ายโดยน้ำมือของมนุษย์ โดยมิได้หยั่งรู้ถึงคุณค่าของมัน พนมเทียน นับว่าเป็นผู้สร้างสรรค์วรรณกรรมเกี่ยวกับป่าที่หาตัวจับยาก วรรณกรรมของพนมเทียนสามารถถ่ายทอดความเป็นไปของป่าได้อย่างหยั่งลึกราวกับผู้อ่านได้เข้าไปซึมซับความเป็นป่าด้วยตนเองจริงๆ ที่สำคัญ สิ่งที่ผู้อ่านได้รับจากงานของพนมเทียน นอกจากความตื่นเต้นสนุกสนานแล้วก็คือ ได้รับรู้ถึงจิตวิญญาณความเป็นป่า ซึ่งยากนักที่ผู้ที่มิได้มีชีวิตสัมผัสอยู่กับป่าจริงๆ จะได้รับ ซึ่งนับได้ว่าวรรณกรรมของพนมเทียน เป็นเส้นทางด่วนที่ผู้อ่านจะได้ใช้ย่นย่อเวลา ย่นย่อระยะทางในการติดต่อสัมผัสกับความเป็นป่าและธรรมชาติของมัน โดยที่ไม่ต้องไปสัมผัสกับความเป็นป่าจริงๆ ซึ่งนับวันจะหายากขึ้น ด้วยตนเอง ผมมีโอกาสอ่านวรรณกรรมของพนมเทียน ในเวลาเดียวกับที่ผมได้มีโอกาสใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับป่า สิ่งที่พนมเทียนถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือของเขาแทบจะเรียกได้ว่ามิได้มีส่วนเกินเลยจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น หากแต่ว่าพนมเทียนสามารถเพิ่มสีสัน เพิ่มรสชาติของวรรณกรรมของเขาได้อย่างลงตัว เป็นความลงตัวที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในป่า นอกจากนี้ บุคลิกของความเป็น ‘ลูกผู้ชาย’ ที่พนมเทียนถ่ายทอดผ่านตัวเอกของเรื่อง ผมคิดว่าเป็นบุคลิกของคนที่จะถูกเรียกว่า ‘ลูกผู้ชาย’ ควรเอาเยี่ยง ซึ่งแทบจะกล่าวได้ว่าในสภาพสังคมปัจจุบัน ยากนักที่จะมีบุคคลที่มีลักษณะที่เรียกว่า ‘ลูกผู้ชาย’ ตามจินตนาการของพนมเทียน ในโอกาสที่งานของพนมเทียนจะถูกนำมาปรับปรุงรูปเล่มและพิมพ์รวมเล่มใหม่ ผมมั่นใจว่า แม้จะเป็นงานที่ถูกเขียนมานาน แต่เนื้อหา ความสนุกสนานในวรรณกรรมของพนมเทียนจะมิได้ถูกบั่นทอนลงกับการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา นอกจากนี้ รูปแบบการนำเสนอ ความสละสลวยของภาษาหากนักอ่านรุ่นใหม่ได้สัมผัสกับสิ่งที่พนมเทียนถ่ายทอดผ่านวรรณกรรมของเขา งานของพนมเทียนน่าจะกลับมาได้รับความนิยมเหมือนกับเมื่อครั้งในอดีต ผมอยากเห็นนักอ่านรุ่นหลังได้สัมผัสงานของพนมเทียน อย่างน้อยกับวรรณกรรมคลาสสิกระดับ ‘เพชรพระอุมา’ สักครั้งในชีวิต ท่านจะได้อะไรที่มากกว่าความสนุกสนาน นั่นคือความรักและหวงแหนในทรัพยากรอันมีค่าของชาติ ซึ่งไม่แน่ว่าในวันข้างหน้าหาก ‘สิ่งเหล่านี้’ สูญสิ้นไปจากผืนแผ่นดินไทย จะด้วยเพราะความโลภ หรือความไม่รู้ของคนในชาติ เมื่อนั้น ภาพของ ‘ป่า’ ก็คงเป็นแค่เพียงเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมา และเมื่อนั้นพวกเราก็คงจะถูกสาปแช่งจากคนรุ่นลูกรุ่นหลานว่า เป็นผู้ทำลายธรรมชาติทำลายป่า ซึ่งก็คือทำลายชีวิตของลูกหลานของพวกเรานั่นเอง

ข้อมูลรีวิวหนังสือ

  • ไม่พบข้อมูลรีวิวของหนังสือเล่มนี้ในขณะนี้